ตัดภาพมาที่หุบเขา ดินแยกชั้นสีแดงอิฐ ความรู้สึกตอนแรกที่มาเห็น พูดก่อนเลยว่าไม่ได้ประทับใจเท่าไหร่ (ก็รู้สึกเหมือนถูกนำมาปล่อยไว้กลางหุขเขาว่างเปล่าไง) แต่พอเราว่างจากงานแล้วเริ่มออกมาหาคำตอบว่า ทำไมหุบเขาที่แห้งแล้ง และห่างไกลผู้คนเช่นนี้ถึงได้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาไม่ขาดสาย(เหตุเพราะเป็นแม่บ้านแล้วได้ทำความสะอาดแบบnonestop 555) ห้องพักที่โรงแรมที่ทำงาน แขกเชคอินเชคเอ้าท์ทุกวัน และเต็มตลอดปี ด้วยเหตุนี้เองจึงตัดสินใจมาหาคำตอบอย่างจริงจังในวันหยุดทำงาน
มองไปไกลสุดตาจากด้านหน้ารถ อารมณ์คล้ายเหมือนที่นี่เป็นวิมานยังไง ยังงั้นเลย มีกลุ่มก้อนหินลักษณะคล้ายปราสาทวางเรียงรายอยู่สุดปลายทาง แล้วรถกำลังวิ่งเข้าหาปราสาทนั้น โอ้ยยย เห็นแล้วมันชื่นนนใจเจ้าคะ
นี่ก็วิวด้านข้าง มีหินสีแดงอิฐสดแยกชั้นเรียงรายเต็มไปหมด สวยงามเหมือนนิยาย
ประวัติของสะพานข้ามแม่น้ำด้านล่าง เค้าทำสวยดีแล้วก็เป็นเหล็กทุกอัน ทนแดดทนฝนมาก (ถ้าเป็นที่ไทยอาจโดนงัดเป็นเศษเหล็กนะเคอะ)
เดินมาขึ้นรถเมล์ไปที่ตัวเมืองเซโดน่า ทุกอย่างอารมณ์แบบว่า แลนด์สเคปมาก มันกว้างไกลไปนู่นนนน เดินมาป๊ะกับโรงแรมหรู นี่ทำเลเค้าอยู่ตรงสามแยกพอดีเลย แล้วทำลักษณะเป็นเหมือนกำแพงโค้งตรงแยก ค่อยมีทางเข้าไปด้านใน แหม่ ฝรั่งเค้าก็ดูโหงวเฮงเหมือนกันนะเนี่ยะ
อารมณ์แลนด์สเคปของยุวชิโอ้ คิคิ <3
เดินเข้ามาเรื่อยๆ ผ่านร้านไอติม โคนละ สี่ดอล โอ้ววว นี่ได้ฮาร์เกนดาสบ้านเราเลย แต่ของเค้าเป็นแบบโฮมเมด อร่อยมากกก XD เลิฟฟฟ เดินมาซักพัก เห็นรุปปั้นคู่รัก เค้าทำได้อารมณ์โรแมนติกมาก เป็นอีกที่สำหรับคู่ฮันนีมูนแบบ ผจญถัยนะ
ร้านขายของเล็กๆน้อยๆ ออกแนววคันทรี่ แบบคาวบอยๆ ไม่แน่ใจว่าเราไปเดินกันตอนเที่ยงหรือยังไงไม่ทราบแต่ นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยกันมาตอนเราเริ่มจะกลับ ฮ่าๆ เพราะแสงแดดที่นี่ร้อนมาก เค้าคงรอให้ไม่ร้อนแสบผิวมาก ถึงค่อยมาเดินเล่นกัน เมืองเล็กๆแต่อบอุ่น เคยได้มีโอกาสไปบ้านคนไทยในเซโดน่าด้วย เค้านวดบำบัดรักษาคนที่เป็นอัมพฤกษ์ให้หายและกลับมาเดินอีกครั้งได้ อ้อ คนไทยนะคะจำได้ว่าพี่เค้าเรียนจบการตลาดเหมือนเราเลย แต่คนละที่กัน พี่เค้าน่ารักมากและบ้านก็ร่มรื่นมากด้วย ชวนพวกเรานั่งดื่มชาสมุนไพรและดูนกแก้วหลายตัวมากที่บ้านพี่เค้าเลี้ยงไว้ ไม่รู้โอกาสไหนอีกนะ จะได้กลับไปดินแดนหินทรายแดงสวรรคือีก อิอิ
เดินเล่นกันจนเหนื่อย ผิวสีน้ำผึ้งไหม้กันแล้ว ก็กลับบ้าน นอนกันเพลียร่างมาก จำความได้เลย ใส่กางเกงขาสั้น กลับบ้านขาลายเป็นม้าลาย เริ่ดตรงนี้
ปล. ค่ารถเมล์คนละ 3-5ดอล ต่อเที่ยว ส่วนอาหารอื่นๆเราไม่ซื้อกินเพราะกลับไปกินที่บ้านพักดีกว่า เปลืองง ฮ่าๆ
เดะต่อไป เดินเล่นที่ Jerome เมืองเก่า โรงแรมผี และงาน3อย่างที่ได้ทำในเวลา 4เดือนที่นั่น จะมาเขียนต่ออีก ตอนนี้หิวว เหนื่อยๆ ง่วงอีกแล้ว บับบาย :)
No comments:
Post a Comment