Search This Blog

Tuesday, December 3, 2013

Work and travel in US และงาน 3 อย่าง


     ขอเอ่ยชื่อโรงแรมเลยนะ เพราะว่าของเค้าดีจริง การันตีความพอใจถ้าได้ไปพักนะคะ The Enchantment resort เป็นโรงแรมรีสอร์ทห้าดาว ราคาเริ่มต้นที่ 400 ดอลฯ จนถึง1000กว่าๆ อันนี้ก็แล้วแต่ความสะดวกของกระเป๋าตังค์นะคะ ลูกค้าแต่ละห้องส่วนมากจะเป็นนักธุรกิจ นักเล่นหุ้น อาจาร์ยมหา'ลัย และหมอ ซึ่งที่เห็นเยอะๆ ก็เป็นอเมริกันส่วนใหญ่แล้วมาพักร้อนกันแบบครอบครัว คนอินเดียก็เยอะ ทิปหนักด้วย ส่วนคนญี่ปุ่นก็มีพอๆกับคนอินเดียคะ แล้วก็เอเชียบ้างประปราย แล้วก็พักกันแบบเป็นอาทิตย์ มาปีนเขาทำกิจกรรมต่างๆในรีสอร์ทนี้ซึ่งมีเยอะมาก ทั้งนวดสปา อบไอน้ำ และมีส่วนของกีฬาต่างๆ เทนนิส ตีกอล์ฟ เยอะแยะเจ้าคะ เพราะรีสอร์ทใหญ่มากกก คือกินพื้นที่ถูเขาทั้งลูกเลย และยังต่อเติมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ


วันที่แดดออกภาพด้านบนและ ภาพด้านล่างคือวันที่ก่อนหิมะจะตก


เริ่มกันตรงที่งานแรกดีกว่า ยุวชิโอ้ ขอสมัครที่ตำแหน่ง บัซเซอร์ ตอนแรกนึกว่าจะคล้ายๆเสิร์ฟมั้ย แต่จริงๆคือ คนเคลียร์โต๊ะอาหารคะ และจัดโต๊ะหลังจากเคลียร์เสร็จ ไม่มีสิทธิ์เข้าไปรับเมนูจากลูกค้าอะไรอย่างใดนะคะ เพราะนั่นเป็นหน้าที่ของพวกเด็กเสิร์ฟเท่านั้น รวมทั้งทิปด้วยต้องให้เด็กเสิร์ฟเก็บมาแล้วบอกที่แคชเชียร์เจ้าคะ ฮ่าๆๆ บอกตรงๆนะ มันคืองานที่หินพอสมควรเพราะกฎเหล็กคือ ต้องทำตัวให้ไม่ว่าง ต้องหาอะไรทำตลอด เดินไปเดินมาเจอช้อนส้อมยังไม่ได้ขัดให้เงาก็ต้องไปเอาผ้าแห้งมาขัดให้สะอาด แก้วน้ำซึ่งมีหลายแบบถ้าล้างเสร็จแล้วต้องเอามาขัดให้ใสอย่าให้มีฝุ่น


รูปนี้ชอบมาก ฮ่าๆ คือเค้าให้ไปขัดพวกเครื่องใช้ทองเหลืองให้ขึ้นเงาเพราะกำลังอยู่ในช่วงย้ายร้านอาหารของโรงแรมไปที่ใหม่พอดี ขัดกันสนุกสนานเลย XD

ทางเดินจากบ้านหลังนึงไปอีกบ้านหลังนึง ซึ่งเดินกันขาลากเลยจ้า

                 ช่วงนั้นกล้ามขึ้นคะ เพราะจานอาหารเป็นกระเบื้องหนักๆจานใหญ่ๆทั้งนั้น ต้องเก็บโต๊ะให้เร็วแล้วก็เอาไปให้พนักงานล้างจาน เทเศษอาหารพอถังเศษอาหารเต็มก็ต้องหิ้วถังละ20กิโลไปเททิ้งด้วย รวมถึงเศษกระดาษทิชชู่ถ้าถังขยะเต็มก็เอาไปทิ้งด้วยแล้วเปลี่ยนใหม่  แล้วองค์ประกอบอาหารเยอะมาก ตั้งแต่เครื่องดื่ม มีอะไรไม่รู้เตรียมเต็มไปหมดค่ะ งานแบบนี้จะยุ่งเป็นช่วงๆ เห็นสบายสุดก็บาร์เทนเดอร์อะนะ ฮ่าๆๆ

                 หน้าที่หลักๆก็ประมาณนี้แต่จริงๆก็มีมากกว่านี้ ฮ่าๆ รายละเอียดมันเยอะมาก แต่เราจะรู้จักเพื่อนเยอะมากตรงจุดนี้เพราะพวกเด็กเสริฟเค้าเยอะ แขกบางโต๊ะ เคยได้ยิน ทิป 100 เลยคะ โอ้วแม่เจ้า ทำงานที่ไทยเกือบสิบวัน ฮ่าๆๆ

                 มางานที่สอง ผู้จัดการร้านอาหารบอกว่า เด็กมางานด้านอาหารมันเยอะไป ขอแรง สองคนมาช่วยที่สระน้ำหน่อย เค้าเลยถามว่าใครว่ายน้ำเป็นบ้าง เลยมีเรากับเพื่อนอีกคนที่เราเลือกไป

อารมณ์ของลูกค้าจะรู้สึกชิลล์ดีมากเพราะว่ายน้ำใกล้กับโขดหินสีแดงๆมาก


ส่วนพวกเราก็ นั่งดูเค้าเล่นน้ำกันกับช่วยเตรียมของให้ลูกค้าประปราย

ทางลงด้านล่างตรงนี้จะทะลุกับสนามเทนนิส ซึ่งคู่พ่อลูกจะมาบ่อยมาก ส่วนคู่แม่ลูกจะมาว่ายน้ำกัน ออกแบบดีอะ อยากเล่นมั่งงง T_T ได้แต่ดูเจ้าค่า ฮ่าๆ

ภาพนี้แอบถ่ายแบบแลนด์สเคปตอนเริ่มวางของจัดสระน้ำให้ดูดี สวยเนาะ คิคิ

คราวนี้ เรารู้จักคำว่า"สบาย" อย่างสุดๆคะ คือสระว่ายน้ำที่เปิดใหม่  ใหญ่มากและเหมือนต้องการคนมาดูแลให้กระจายๆออกไป คราวนี้หวานหมูเลยคะ นานๆทีจะมีคนมาว่ายน้ำ ฮ่าๆ คืออากาศช่วงนั้นก็จะยังกึ่งๆหนาวในช่วงเช้า เราก็มีหน้าที่จัดเตียงอาบแดดที่สระว่ายน้ำให้พร้อม เก็บผ้าขนหนู แล้วก็มีพวกเด็กบาร์เทนเดอร์ลงมารับออเอดร์เครื่องดื่มในช่วงบ่ายๆ นอกนั้นก็ว่างค่ะ เพราะมันไม่มีอะไรทำ เลยเบื่อมากกกกก  แต่ได้ตังค์เท่ากับบัซเซอร์นะคะ เหตุเพราะ"สบายเกินไป"แต่นั่นแหละจึงขอเปลี่ยนงานมาเป็นสิ่งที่เราค้นพบเลยว่า "มันใช่" นั่นคือ "แม่บ้าน"


    ตอนแรกกลัวมากเพราะเค้าบอกว่างานโหดแต่เอาเข้าจริงๆ สนุกกว่าเด็กเสิร์ฟอีกนะ แล้วเพื่อนร่วมงานคือกลุ่มแม่บ้านเม็กซิกัน บางคนพูดอังกฤษยังไม่ได้จ้าาา แต่พวกเค้าน่ารัก เราชอบ เค้ากันเองดี งานนี้แม่บ้านขับรถกอล์ฟนะคะ แล้วก็ออกตามล่าทิปตามห้องที่เราได้ลิสต์ของผู้จัดการจัดไว้ให้

     ได้ร่วมงานกับเพื่อนคนไทยด้วยกัน เพราะห้องที่้ตองทำความสะอาดค่อนข้างใหญ่ ขึ้นอยู่กับจำนวนห้องว่าลูกค้าจองห้องใหญ่หรือเปล่า หรือจองบ้านทั้งหลังเลย แต่สนุกคะ ต้องมารีบทำความสะอาดให้ทันแขกที่เช็คเอ้าท์ เพราะทิปมันอยู่ในนั้นนั่นเอง ที่ต้องรีบเพราะจะมีพ่อบ้านอีกกลุ่มนึงคะ เค้าจะมารับผ้าปู้เตียงและผ้าขนหนูไปส่งห้องผ้าก่อน บางคนใจดีไม่ขโมยทิปเรา บางคนใจร้ายแย่งไปเลยกับตาก็มี ซึ่งที่จริงมันคือสินน้ำใจที่คนทำความสะอาดควรจะได้คะ ไม่ใช่ส่วนของพ่อบ้าน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แม่บ้านก็ต้องมีน้ำใจถ้าพ่อบ้านไม่ได้ดึงเงินส่วนนั้นไป แม่บ้านก็จะแบ่งให้ตามเหมาะสมคะ


ช่วงหิมะตก บริเวณบนเขาแดงๆก็มีหิมะขาวปุยปกคลุม สวยดีอิอิ 


           งานมันสนุกตรงที่ต้องแย่งชิงทิป ฮ่าๆ สำหรับวัยรุ่นแล้ว มันคือเรื่องที่ตื่นเต้นคะ พอเราได้ทิปมา มันรู้สึกตื่นตาตื่นใจ สนุกกับงานที่ทำ ถึงแม้จะเหนื่อยแต่มันสนุกคะ เลยรู้สึกว่างานนี้มันโอเคแล้วแหละ อารมณ์คือไม่อยากทำงานด้านอาหารอีกเลยเพราะรายละเอียดมันเยอะ  งานแม่บ้านก็เนี๊ยบในส่วนที่มันไม่ได้ซับซ้อนมาก เช่นกระจก โต๊ะ พื้น ห้องน้ำ กลิ่น รวมถึงเตียงที่ตึงเรียบ เป็นประสบการ์ณที่ดีคะ เราเองเด็กไทยที่อยู่ไทยมีหน้าที่แต่เรียนๆพอจบม.หก ก็เรียนๆ โดยที่ไม่มีเวลามาหาตัวตนแบบเด็กที่ต่างประเทศเค้าได้เบรคช่วงชีวิตหลังจากไฮสคูลเพื่อค้นหาตัวตนของพวกเขา ถ้าเค้าเจอแล้วว่ามันคืออะไร พวกเค้าถึงจะตัดสินใจเรียนต่อ เพราะเวลาสี่ปีที่เค้าต้องเรียนมันคืออาชีพที่พวกเค้าต้องรักมันและทำมันจนจบอย่างมีความสุข แต่อย่างไรเราก็ไม่เสียดายคะถึงแม้ตอนนี้เราก็เริ่มจะจับทางได้แล้วว่า แท้จริงแล้วเราต้องการอะไร เราอยากเป็นอะไร เราก็หาเส้นทางเพื่อไปให้ถึงและพยายามอย่างเต็มที่ในทุกๆวัน ถึงตอนนี้เราจบแล้ว แต่ไม่มีความรู้สึกที่อยากจะทำงานที่เรียนจบมาเลย แต่พอเห็นเส้นทางที่เราจะไปต่อแล้ว ก็เริ่มทำมันต่อไป เพื่อให้ได้สิ่งนั้นและได้ทำมันจริงๆอย่างที่คาดหวังมันไว้
ตึกบริเวณทางก่อนเข้าซอยในโรงแรมเจ้าค่า หิมะขาวๆปกคลุมแบบหัวเห็ด น่ารักดี 


ทุกครั้งที่แขกเชคเอ้าท์ จะมีของกินเยอะแยะกลับมาเสมอคะ ฮ่าๆ
และนี้ก็อีกชิ้นนึงที่แขกไม่เอากลับบ้าน งั้น เสร็จแม่บ้านไป ตามระเบียบ


   ถึงวันนี้เราก็ต้องสู้ต่อไปคะ    รู้สึกยังโชคดีที่พ่อแม่เราเป็นครอบครัวที่เปิดให้เราคิด ไม่อยากจะโทษตัวเองที่ตัดสินใจเรียนเพราะพี่สาวบอก   แต่มันไม่ได้มาจากความรักความชอบในสิ่งนั้น ซึ่งสี่ปีที่เรียนมามันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด อย่างน้อยมันสอนให้เราเป็นคนละเอียดมากขึ้น กล้ามากขึ้นที่จะคิดทำในสิ่งที่แตกต่าง ทำไปเถอะคะ อะไรที่เรารักมัน เรามักทำมันได้ดีเสมอ ในจุดที่เราพอใจ ไม่เดือดร้อนใคร และสุจริต

แหม่พิมไปบ่นไป เมือยมือเลย งั้นเครั้งต่อไป ลงเรื่องทริปต่อเลยละกันเจ้าา บับบายจ้า :)

No comments: