Search This Blog

Sunday, December 22, 2013

Phoenix AZ,Rosson House Museum

มามะ เล่าเรื่องเมื่อครั้งที่ไปในตัวเมืองของฟินิกส์ดีกว่า พอดีพี่สาวมาหาเลยได้เที่ยวไปมาในนั้นก่อนที่จะพากลับบ้านนอกแล้วเราก็ทำงานต่อ คิคิ

เริ่มจากวันแรกเลย ใจจริงอยากจะเข้าไปเล่นสวนสนุกมากเลยนะแต่คนพาไปเราก็ให้เค้าพาไปเท่าที่เค้าว่างให้ได้อะคะ ทำงานหนักแล้วยังต้องมาพาพวกนี้ไปเที่ยวเค้าคงคิดในใจ ฮ่าๆ

เราเดินจากโรงแรมที่เราพักกันก่อนเลย ไม่มีพาหนะอะไรแต่อย่างใด ไม่อยากนั่งเมโทรเค้าเพราะเกรงว่าจะหลง เลยเน้นการเดินไปเรื่อยๆมากกว่า เจออะไรก็ถ่ายรูปอันนั้นไป หิวก็แวะกินอาหารไทย ซึ่งก็อร่อยนะ แพงดี ฮ่าๆ เราเดินไปชิลล์ไป เดินผ่านตึกสูงชันหลายตึก รู้สึกว่าไม่เห็นมีคนพลุกพล่านเลย สงสัยเค้ายังทำงานกัน ก็เลยเดินไปตามแผนที่กูเกิลบอก และแล้วก็เจอบ้านสมัยวิคตอเรีย Rosson House Museum ต้องซื้อบัตรเข้าไปด้วยนะ แล้วก็มีคนบรรยาย บ้านสมัยนั้นเป็นทรงวิคตอเรีย สร้างเมื่อปี 1895 
บ้านหลังนี้เค้าเปิดแอร์ให้ด้วยนะ ตลอดเวลา เพื่อให้อุณหภูมิคงที่และไม่ทำลายเนื้อไม้ เพื่อคงสภาพของบ้านเอาไว้ 

มุมจากด้านข้างถนน

         เริ่มจากชั้นล่างด้านหน้า เป็นห้องรับแขกสวยหรู สมกับเป็นบ้านคนรวยสมัยนั้นจริงๆ โดยมีรูปของเจ้าของบ้านสมัยมือแรกแปะไว้ด้วย คนบรรยายก็แก่แล้วนะ เราไม่แน่ใจว่าเค้าเป็นทายาทของเจ้าของบ้านรึป่าว คิคิ


ต่อมาก็ห้องอาหาร จัดไว้แบบนี้ตลอด แต่เราก็ได้กลิ่นฝุ่นเบาๆนะ ถึงแม้เค้าจะเปิดแอร์ไว้ก็ตาม ก็มันเป็นของเก่าทั้งหมดเลย เอ่อคือ ทั้งบ้านเลยคะ ทุกอย่างอยู่ในสภาพที่สวยงามเพราะหยุดใช้งาน เลยอนุรักษ์กันไว้
    ส่วนนี้ขึ้นมาด้านบน เป็นห้องนั่งเล่นดูวิว และมี้ครื่องจักรเย็บผ้าสมัยก่อน ซึ่งสมัยนั้นไกด์บอกว่า คนที่จะมีเสื้อผ้าใส่นั้นยากมาก คือคนนึงมีชุดใส่แค่ชุดเดียว หรือยกเว้นมีกะตังค์จริงๆจะมีเครื่องเย็บผ้าใส่เองที่บ้าน จำไม่ได้ว่ารูปถ่ายเสื้อผ้าเราเก็บไว้ไหน เลยไม่ได้เอามาลง แต่ที่นั่นเค้ามีโชว์อยู่ สงสัยเผลอลบรูปไป แง้ๆๆ

        ไกด์บอกว่ารูปนี้ ช่อดอกที่ล้อมรอบรูปวาดนั้น ทำมาจากเส้นผมของคนที่เป็นเจ้าของรูป  ให้เป็นลวดลายดอกไม้สวยงาม มันกดูคลาสสิคนะ แต่พอเรารู้ว่าเป็นเส้นผม เราก็เอ๋อไปชั่วครู่ .. เป็นหวิวๆนะคะ (คือคนที่เข้าไปมีแค่เรากับพี่สาวเราไง ไม่มีนักท่องเที่ยวคนอื่นมาช่วงนั้น ฮ่าๆ)
       ตรงนี้เป็นทางเดินที่เข้าไปในแต่ละห้องซึ่งมีเยอะมาก สงสัยว่าสมัยนั้นจะอยู่กันหลายคนทีเดียวในบ้านหลังนี้ ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ทั้งคนแก่ คือเป็นครอบครัวใหญ่เลยทีเดียว  และที่เห็นเป็น ปุ่มๆตรงผนังคือกริ่งที่เอาไว้เรียกคนใช้ของบ้านนี้   แหม่....รวยจริงอะไรจริงเจ้าคะ (ถ้าให้เทียบบ้านหลังนี้คงคล้ายๆวังบ้านเราของพวกขุนนางสมัยก่อนอะเนาะ แต่มันดูทันสมัยกว่าเพราะมีเทคโนโลยีเข้ามาใช้แล้วในบ้าน)


                    สักพักเราก็แวะเข้าไปที่ห้องนอนของภรรยาเจ้าของบ้าน เตียงสั้นมาก ตอนแรกนึกว่าเตียงของเด็กคะ แต่คนสมัยก่อนไม่ได้สูงมากมาย ใจจริงอยากจับเตียงไม้มากเลย แต่เค้ากั้นไว้ :3
 เลยมาอีกห้องฝั่งตรงข้าม เป็นห้องที่เอาไว้ สร้างความครึกครื้น โดยมีเปียโนเป็นหลัก และพวกของเล่นของเด็กๆในบ้าน



อันนี้เราแอบจับน็ตเปียโนด้วย คิคิ เค้าไม่เห็น สภาพยังดีอยู่เลย ไม้ก็ขัดเงามันแว๊บๆ

           เดินเข้าห้องข้างๆ เป็นห้องของเด็กเจ้าคะ เข้าไปตกใจหมดเลย เห็นหุ่นหญิงสาวและชุดสีขาวยาว ฮ่อยย -_- ไม่แน่ใจว่าไกด์บอกว่าเค้าคือหุ่นที่เอาไว้เวลาตัดชุดรึป่าว เพราะบ้านหลังนี้มีเครื่องจักรคะ แต่คาดว่าน่าจะเป็นแบบนั้น


           ลงมาด้านล่าง ไปห้องที่อยู่ส่วนท้ายของบ้าน เข้าไปแล้วรู้สึกเหมือนเป็นห้องทดลองอะไรสักอย่าง มีโต๊ะทำงาน      แล้วไกด์เลยบอกว่า เจ้าของบ้านผู้ชายเค้าเป็นหมอ เวลากลับบ้านมาก็ศึกษาวิธีการรักษาและการผ่าตัด  เย็บที่ห้องนี้ (มีกระเป๋าเก็บชิ้นส่วน อวัยวะด้วยนะเพื่อเอามาต่อรักษา)

             และก็มีหุ่นเพื่อบอกโครงสร้างมนุษย์ด้วยในห้อง อย่างคร่าวๆ ไม่ได้ละเอียดเหมือนที่เราเห็นปัจจุบัน แต่ก็ไม่กล้าแตะคะ ฮ่าๆ กลัวเบาๆอีก

เดินกำลังจะออกมาทางหลังบ้านก่อนออก ก็เห็น สมัยก่อน แขวนไว้ เก๋เนาะ
                     (เสียดายที่หารูปห้องน้ำไม่เจอคะ จะเป็นชักโครดแบบไม้ที่เราเห็นกันในเกทส์ The sims นั่นแหละคะ คลาสสิคอย่าบอกใครเชียว)
                           แล้วก็เดินออกมาส่วนท้ายบ้านคะ เป็นห้องครัว ทุกอย่างมันดูมินิไปหมด อาจเพราะคนสมัยก่อนแม้กระทั่งฝรั่งเองก็คงยังไม่ได้สูงอะไรมากมายเหมือนเช่นปัจจุบัน ดูจากโต๊ะที่มช้เตรียมอาหาร มันเล็กมาก ถ้าเราทำจริงๆคงต้องก้มหั่นผักจนปวดหลังเลยทีเดียวคะ 
         ออกมาด้านนอกตรงระเบียงหลังบ้าน เค้าเอาเครื่องซักผ้าสมัยก่อนมาให้ดูด้วย ซึ่งอยู่ในสภาพแบบตามมีตามเกิด พังก็ซ่อม ใช้ไม่ได้ก้ปล่อยไว้งั้นแหละ คิคิ ดังนั้นเลยเห็นว่า เมื่อคนเริ่มขี้เกียจ ก็จะประดิษฐ์สิ่งแปลกๆตามมาเรื่อยๆ มันก็เก๋ไปอีกแบบนะคะ

สรุปคือ ทริปบ้านทรงวิคตอเรียนี้ ใช้เวลาไป เกิบ 2 ชั่วโมงคะ ไกด์ทำงานเต็มที่มาก อธิบายทุกอย่างละเอียด เพื่อให้เราเข้าใจถึงบ้านหลังนี้ว่าเป็นยังไง และก็ประทับใจเจ้าคะ จ่ายค่าบัตรไป น่าจะ 4-5$ ต่อคนนะ ถือว่าถูกมาก และคุ้มกับสิ่งที่ได้เห็นค่า

แวะพักก่อนค่อยเขียนสถานที่ต่อไปเจ้า J บับบาย

No comments: