Search This Blog

Thursday, March 8, 2018

Prague ,Czech Republic 3 คืน อิแม่ร้อนนน

ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า เพิ่งจะว่างจริงๆ แล้วก็ได้มานั่งเขียน ช่วงที่ไปทริปนี้ เป็นซัมเมอร์ปี 2016 ซึ่งจำได้ว่า อากาศนี่คือไทยแลนด์ชัดๆ


อาจจะเล่าลัดแพลนเที่ยว เพราะนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน แล้วแต่อารมณ์จริงๆ ฮ่าๆ คือเราเดินทางโดยใช้รถบัส ในการข้ามประเทศเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากประหยัดและได้เดินทางพร้อมกันกับช่วงนอน ตื่นมาคือเน้นว่า เอาของฝากที่พักแล้วเที่ยวต่อเลย (โหดดี) ตอนนั้นเพื่อนยังไม่เข้าร่วมทริป เราเลยออกหน้าทริปไปก่อน ซึ่งเรานัดไว้ว่าจะเจอกันระหว่างทางของทริปทั้งหมด เราลิสต์ไว้ 8 ที่ด้วยกัน เป็นโซนยุโรปตะวันตก พยายามจะกวาดให้เรียบแต่ก็ไม่หมดอยู่ดี



เราเดินทางมาจากเบอร์ลิน เยอรมันนี โดยรถบัสท้องถิ่น ราคาถูกแต่รถถือว่าดีเลยทีเดียว ถ้าเทียบบ้านเราก็รถประมาณนครชัยแอร์ แบบตั๋วธรรมดา ถือว่าดีนะสำหรับเรา ใช้เวลาประมาณ 4 ชม.ในเที่ยวนี้ แบกวนไป กระเป๋าลากใบนึง และกระเป๋าพายหลังอีกใบนึง


จองที่พักรีวิวก็ไม่แย่นะ เรากะไว้สามคืน และภาวนาให้เจอห้องดี เปิดเข้าไป อู้วหูว มีเตียงสองชั้น 5 เตียง นั่นแปลว่า จะมีคนอีก 9 คน ในห้องนี้ ที่พักรวมราคาอาหารเช้าแล้ว เราเลยจะประหยัดหน่อย ไม่ต้องจ่ายไปมื้อนึง โดยในห้องก็จะมี ผช ผญ ปะปนไป เอาตรงๆมี ผญสามคน รวมเราด้วย แอบกลัวนะ แต่ทุกคนดูกันเองมาก แล้วจำได้เลยว่ามีเพื่อนผชสองคน ก็มาเที่ยวเหมือนกัน น่าจะวัยทำงานแล้วแต่ก็มาเที่ยวกันแบบนี้ รู้สึกดีไปอีกแบบ


การเที่ยวแบบนี้ คือการสลายไขมันออกอย่างดี เพราะเราเน้น เดิน เดิน เดิน แล้วก็เดิน ซึ่งก็จะมีแอพพลิเคชั่นคำนวณระยะทางเริ่ม และจุดที่เราจะเข้าไปแวะชม ดู ตามระยะทาง คำนวณเลาให้เสร็จสรรพ ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องยากเลยในการที่จะแพลนที่เท่ียวให้ครบ ในแต่ละวัน

จำได้ว่าตอนนั้น เราเดินไปใน old town ด้วยความที่สวยมาก ฮ่าๆ เดินไปมา มีผช สองคนนั่งกินพิซซ่าอยู่ในนั้น ยิ้มและเรียกให้ไปกินด้วย อิชั้นก็ด้วยความตกใจ ไม่ไปสิ เดินหนี ..จริงๆก็หิวข้าวฟรีอะนะ แต่กลัวไม่ปลอดภัยมากกว่า..จำหน้าไม่ผิด นางงานดีอยู่ กิกิ




หลังจากเรากิน เดิน เที่ยว วนทั้งวันที่ ตัวเมืองเก่า เดินปีนขึ้นไปดูวิวของเมืองที่ปราสาทแล้ว เราก็ทำแบบนี้วนไปมา จนครบ ตอนแรกก็นึกว่าจะจบละ ทริปที่ปราก ยังไม่มีอะไรกระตุ้นเลย นอกจากวิวกับอากาศดีดี

เช้าวันก่อนเช็คเอ้าท์...เนื่องจากเราเหนื่อย จากการเดินเที่ยวทั้งวัน เราก็หลับสนิท เตียงเราจะอยู่ชิดผนัง ซึ่งอีกฝั่งก็เป็นเตียงเช่นเดียวกัน เราอยู่ชั้นบน เช้าวันนั้นคือปวดฉี่มาก..แต่กำลังสะลึมเสลอเปิดตาขึ้น ..ด้วยความที่เราสายตาสั้น ไม่ได้ใส่แว่น แต่เหลือบเห็นฝั่งตรงข้าม เตียงข้างล่าง ซึ่งคนพักเตียงนั้นคือ ผญ....นางกำลัง..ขึ้นแล้วโยกย้ายไปมา..สภาพเปลือยท่อนล่าง...เอิ่มมมม

อิชั้น..ปวดฉี่ก็ปวด พอเดาได้ว่า เกิดอะไรขึ้นขณะนั้น จะลุกเลยก็กลัวขัดจังหวะ...เป็นคนดี..รอให้เขาเสร็จกิจก่อน อิชั้นถึงทำท่าทางแบบว่า หาวแรงๆเหมือนเพิ่งตื่น...ทั้งๆที่ คือตื่นนานแล้วมั้ย ...สรุป น่าจะได้รอสักพัก คาดว่าเมื่อคืน น่าจะมีปาร์ตี้อะไรสักอย่างที่ผับด้านล่างของโฮสเทล แล้ววัยรุ่นก็คงหิ้วกันไปมา ..เง้อออออ...อิชั้นก็นะ  ครั้งแรกของการพักโฮสเทลแล้วเจอแจ๊คพ๊อตแบบนี้.. ตลก ปนอยากรู้ แต่ก็สนุกดี ถ้าพัก โรงแรม คงไม่เจออะไรแปลกๆแบบนี้ อิอิ

แล้วทริปนี้ ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ดันต่อไปทริปหน้า จะเจอเพื่อนแล้ว..เรานัดเจอกันที่ เวียนนา ออสเตรียค๊า...ไว้อารมณ์ดีดี จะมาเล่านะค๊ะ ง่วงแล้ว

รัก
Yuwachio

My cloudy trip at Ho Chi Minh in Vietnam :D

Kam on!! This word I always said when I was in Ho Chi Minh trip with my friend last week which means Thank you! :)

My trip there,  we spent for 4 nights at 3.5 stars hotel where was in a pretty good location and the great services!!! I also gave them 5 stars for their services anyway :P

On the first day from Thailand, due to my bus information ,as a backpack visitor, taking bus number 152 and the bus fare was 5,000 VND or around 0.25 USD per person but if you will take a huge backpack you will need to pay the ticker fare one more seat 5,000 VND(anyway it is cheap!) :D

My friend and I were very lucky for all of the trip, we paid all prices as people there did. Starbucks coffee were the same prices as in the US so I spent my sack of money there around 110,000 VND for my green tea frappe!! with a Wifi password on the end line of receipt as same as if you would have a Wifi password in Saigon airport you need to buy something from them(we bought the glasses of milk but Wifi didn't work anyway lol).


My first biting was an egg baked on this circle bread like this picture. I was not sure how much it was but still cheap. And I thought the bread would be soft and melt but...maybe this bread has finished since morning...taste was ok not that bad though..


The very first day, we went out for those historical places. We decided to just go sightseeing around in the city by walking and buses. The fares charged us 6,000 VND for a passenger with the air conditioning bus.
.I think it was a good price though...and I usually used only google map to figure out the routs and bus numbers during this trip! I would recommend that all you need was a very"smartphone" with you all the time or the other choice if you would practice your Vietnamese speaking ...traveling without smartphone would be the best answer for you.




You could finish sightseeing around these places in only one day by walking because the places were nearby just couple blocks. They were a few of pre-wedding couples around but you will be ok for your nice photography. 



People there were nice and willing to help you about the information. Our hotel staff just told us that we needed to beware of pickpockets during the trip either walking around in the city or taking tricycles.

There were motorcycles around 70-80% on the roads, but luckily we had no accidents From this. I pictured when I was crossing the roads and felt the bikes were like flies lol.

Some people said, we needed to  make an agreement clearly before taking them which included motorcycle services and private taxies. But there were also many honest taxi drivers we got the good service from hotel back to the airport. He had shown how much it costed by the distances.

Unfortunately, I was sick, so this trip was not like I planed to be. I could only travel in the city.  At the beginning, I planed to "Muine" and "Dalat" for those short holidays. 

Until now, I still feel sorry for my friend who came with me because I was unexpectedly in trouble of sickness.

We went to try the famous coffee shop where was nearby Starbucks, named "Cà Phê Vy". Actually we did not have coffee but this time we could not really missed this thing to do and try. As a tea lover, I would say that I did like this Late coffee, taste was not too strong or bitter for me. 


Keeping walked around in the city, we just followed landmarks on google map lol. We were able to see how close the places were!! There was Ho Chi Minh city hall close to the Notre Dame Cathedral and the next block was Saigon post office. 


Time has gone by, we realized that our hotel place we were staying. It was far from our Mc Donald only 10 minutes walking! lol Would not lie that we had couple times of Mc Donald.

On the last day of this trip, we went out by bus again which we found the location from one of our friends who had been in Ho Chi Minh before. They recommended us to try the morning glory fried at this resturant. And sure that we planed heading off to that place on our last day trip there.

I was not sure that how much we paid in this meal. Might be around 7-800,000 VND. There were bbq crab, fried oilstors (something), fried rice and the morning glory stir fried. Could not lie that the morning glory stir fried was our favorite plate, it was sweet in each bite itself. And the rest of them, I think they were ok not bad.

How could I pay this number on my meal!  170,000 wow! Haha :)
Anyway, we went to have our meal at Mc Donald again before leaving this city and had this minion cupcake for our prize lol.

What is my next trip ? I would update again soon (I am have lots of free time again Haaaa)

Have a lovely day !
Muah XD

I am still practicing write in English. And I  would apologize if there are any errors.

Saturday, October 14, 2017

หายไปนานมากกกก เพิ่งจะว่าง เล่าเรื่องการขอวีซ่าทำงานต่างๆ เพื่อให้ได้เที่ยว และหาประสบการ์ณชีวิต

อยู่ๆก็คิดถึงการเล่าเรื่องราวสนุกๆที่เกิดขึ้น ในช่วงระหว่างการเดินทางของเราตั้งแต่ปี 2012 - 2017

เรื่องให้เล่ามีมากมายในหัว พร้อมกับร่างกายที่เริ่มแก่ชราภาพขึ้น ภาพที่เรามองย้อนกลับไปตอนสมัยเริ่มผจญภัยการท่องโลกของเราในที่ต่างๆ มันช่างเป็นช่วงเวลาที่เราหาซื้อที่ไหนไม่ได้จริงๆ

เอาที่จำความได้ เริ่มเสพติดการเดินทางเพื่อเจอสิ่งใหม่ๆหลังจากเรียน ป.ตรีจบ เมื่อปี2012 หลังจากนั้นเราก็หาหนทางต่างๆที่จะมีโอกาสค้นคว้าประสบการ์ณต่างๆ ที่เราคิดว่า พอแก่แล้ว เราคงทำมันไม่ได้

เราเริ่มจากการหาข้อมูลใกล้ตัว ไปโครงการสำหรับน้องๆ ป.ตรี Work and Travel in USA ช่วงปีสุดท้ายที่จะจบ และก็เจอเพื่อนๆหลายคน มาจากหลายที่ หลายประเทศ หลายทัศนติ หลายอุดมการ์ณมาอยู่รวมกันที่เดียว ใช้เวลาทั้งหมด 5 เดือนในการเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ประสบการ์ณต่างๆ ที่ตอนนี้ เราย้อนกลับไป ก็อดยิ้มไม่ได้ และทำให้ได้เจอเพื่อนที่ยังคบกันอยู่จนถึงปัจจุบัน ได้มิตรภาพดีดีกลับมาแบบไม่รู้ลืม

หลังจากนั้น ปี 2013 ช่วงปลายปี ขณะนั้นเรารอขั้นตอนการขอวีซ่าแบบWork and Holiday in Australia ในช่วงรอบคิวของปี 2013  เราก็ได้มีโอกาสไปอินเดีย เจอเพื่อนใหม่ กิกิ ที่ในขณะทริป ทั้งดีและไม่ดี ปนกันไป ขอวีซ่าเอง ซื้อตั๋วเอง ลุยมาก กล้ามากตอนนั้น ก็ยัง งงตัวเองอยู่นะ ทำไมกล้าจังง ฮ่าๆๆ

ช่วงนั้นก่อนไปอินเดีย บังเอิญ มีพาน้าเพื่อนบ้านไปเที่ยวสิงคโปร์ก่อนด้วย เขาจะไปหาแฟนเขาแล้วเราก็นะ อะไรที่คิดว่ามันฟรี จ่ายแต่ค่าตั๋วมันก้น่าจะคุ้ม เลยอาสาพาไป ฮ่าๆ เพราะน้าแถวบ้านเขาอาจต้องการเพื่อน ซึ่งเราก็คิดไปเอง ฮ่าๆๆ แต่เราคิดตอนนั้นคือ ไปไม่ต้องเสียค่าห้องพักไง คือคำนวณหมดว่าอยู่ประมาณนี้ เลยจัดไป เนียนๆ ใสๆ

สรุป รอไปรอมา โฮสคนเก่าเราไม่พร้อมด้วยเหตุผลของทางเขา รอเขานานถึงหกเดือนเพื่อที่จะเริ่มงานให้!! เราเองจึงตัดสินใจทันควันว่า"ไม่รอแล้ว ชั้นอยากเที่ยวแล้ววว"  พอต้นปี 2014 เราหาโฮสใหม่ ไม่เกินสองอาทิตย์เจอแล้วขอบินเลย ฮ่าๆ และการเดินทางอันปราดเปรียว ก็เริ่มขึ้น

เราได้ทำงานเลี้ยงเด็กให้โฮสที่เมือง ซิดนีย์ อันวุ่นวาย ณ ออสเตรเลีย..เอาตรงๆ ตอนแรกจินตนาการไม่ออกเลยว่า ออสเตรเลียจะเป็นยังไง ไม่เคยศึกษามาก่อนด้วย เพราะเป็นชะนีที่ขี้เกียจอะนะ อยู่ไปอยู่มา ก็ครบไปปีนึง และแวะเที่ยวเมลเบิร์นก่อนกลับ พร้อมร่างกายอันกำยำและน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเกือบ สิบโล!!!

ช่วงนั้น เราฝึกภาษาด้วยการพยายามไม่คบคนไทยให้มากที่สุด ไม่ค่อยสรรหาเพื่อนคนไทย คบแต่เพื่อนเก่าที่เคยเรียนในสมัยมหา'ลัย ด้วยกัน เพื่อนไปเรียนต่อที่นั่น แต่เพื่อนก็ไม่ค่อยว่าง ดังนั้นจึงหาทางออกด้วยการเจอเพื่อนที่เขามาโปรแกรมเดียวกัน แล้วบังเอิญมาทำความสะอาดบ้านที่เราอยู่กับโฮสพอดี เป็นคนน่ารักมาก เทอเป็นคนใต้หวันและชอบคนไทยมาก นิสัยดีมาก ช่วงหลังๆเลยชวนนางไปแฮงค์เอ้าบ่อยๆ อยากไปไหน ชวนนางก่อน ไปnude beach ก้พานางไป ไปเปิดหูเปิดตา แอบดูว่าเออมันมีจริงๆด้วยไอ้หากแก้ผ้าเนี่ยะ โป๊กันหมดเลยยกเว้นพวกชั้นน  ไปทะเล ไปเดินเขาที่ต่างจังหวัดก้พานางไป เหมือนนางมาออสเตรเลียเพื่อเก็บเงิน อิชั้นเลยจัดการ พานางใช้เงินให้ ฮ่าๆๆๆ นึกไม่ออกนักว่าช่วงที่อยู่ออสเตรเลีย เราเที่ยวที่ไหนบ้าง เพราะเราก็ทำงานสู้ตายเหมือนกัน แต่เที่ยวนี่ก้ขอแบบประหยัดงบ แต่ก้เดิน ปีนเขาเอาการเช่นกัน

หลังจากกลับไทย และอยู่ครบวีซ่า เราก็ยื่นขอวีซ่าทำงานต่อที่แคนาดา รอไปรอมา 1 ปี ไม่มีอะไรคืบหน้า แล้วเข้าไปช่วงที่เกิดวิกฤติผู้อพยพสงครามจากแถบตะวันออกกลางเข้าอพยพในหลายๆประเทศทั่วโลก เราผู้ซึ่งขอวีซ่าทำงานต่อ ได้รับผลกระทบเต็มๆ และเรารอจนกระทั่งเราตัดสินใจทำไมเงียบจัง โทรสไกป์เครดิตยิงตรงไปที่เบอร์โฮส นางรับและนางบอกว่าไม่ต้องการคนทำงานให้แล้ว แต่เรางงมากทำไมไม่แจ้งทางเราเลย ให้เรารอนานเสียเวลาเรามาก แต่ชาวพุทธคิดบวก คือเรายังทำบุญ ดีที่ไม่ได้ทำงานให้บ้านที่ไม่มีระบบแบบนี้ ถือว่ารอดดด

ช่วงนั้นทำงานให้เอเจนซี่ ได้ไปเที่ยวเกาะเจจู เกาหลีใต้ช่วงเกือบปลายปี สนุกสนาน ครีมทาหน้ามาเต็มกระบุงงง ต่อด้วยทริป โอจิมินฮ์กับเพื่อน ตอนอยู่กทม. หลังจากนั้น ปี 2016 แก้เผ็ดด้วยการขอไปโปรแกรมอื่นต่อทันทีที่อายุเรายังไม่เกิน ฮ่าๆๆ เราได้มาเลี้ยงเด็กที่สวีเดนนี่เอง และอยู่ครบเต็มปีเช่นเคย แต่รอบนี้ เราบอกได้เลยว่า เที่ยวคุ้มมากกกก


ช่วงพักร้อนของโฮส เราจัดทริปสู้ชีวิตกับชะนีเพื่อนที่ไปโปรแกรมออแพร์ด้วยกันและเจอกันที่นั่น เหมาไปโซนยุโรปตะวันตกเกือบหมด โดยเรามีวันพักก่อนเพื่อน และเราเริ่มเดินทางไปก่อน เริ่มที่เดินทางจาก สวีเดน ลงเครื่องที่ โคเปนเฮเกน, เดนมาร์ก แล้วไปเบอร์ลิน, เยอรมัน ลุยกันแบบไม่ต้องนอน ต่อด้วย Czech แล้ววนล่าง รอเจอชะนีเพื่อนที่ Vienna, Austria เสดปุ๊ปเราลงไป Venice, Italy สุดทางอิตาลีด้วย Rome แล้วบินย้อนกลับมาที่ Paris, France เที่ยวเหมือนคนไม่ต้องนอน ฮ่าๆ ต่อไปที่ Brussels, Belgium วิ่งขึ้น Amsterdam, Netherlands ต่อของสถานที่สุดท้าย ถึงยอมบินกลับ สต๊อกโฮล์ม

ก่อนกลับถึงไทย เมื่อต้นปีนี้ 2017 อิชั้นก็เอาอีก ด้วยการแวะ Moscow, Russia ลุยหิมะหนาวๆ เล่นสกีบอร์ดทั้งๆที่เล่นไม่เป็น เอาสิ ไว้ว่างๆเดะมาเล่าให้ฟัง อิอิ

มันคือความบ้าบิ่นที่เที่ยวเหมือนชีวิตนี้ชั้นต้องรีบขนาดนี้เลยหรอ นึกแล้วก็ตลก ขอบคุณพ่อแม่ที่เข้าใจ ว่าเราต้องการทำสิ่งแบบนี้ เพื่ออะไร ต่อยอดอะไรได้ด้วยตัวเอง ขอบคุณที่พวกเขาเชื่อในตัวเรา เชื่อในการตัดสินใจของเราทุกๆอย่าง ขอบคุณที่เข้าใจ

ปล.ไว้ว่างๆ อารมณ์ดีดี จะมาเล่าว่าแต่ละที่ เราเจออะไรบ้าง มันบ้า มันบอ ขนาดไหน การเที่ยวแบคแพคมันสนุกตรงไหน สนุกตรงที่ เราไปเจอเพื่อนใหม่ ในห้องที่บางทีเพื่อนร่วมห้องอาจจะแปดเก้าคน มีทุกเพศ มีหลายหลายชาติ ภาษา แต่ทุกคนมามีจุดหมายเหมือนกันคือ เที่ยว เรียนรู้ อย่างอิสระ...


รัก
Yuwachio

Saturday, May 30, 2015

Visiting the places in Australia 2014

 และแล้วก็มาถึงเดือนสุดท้ายที่จะอยู่ที่นี่มีความสุขมากเนื่องจากเมืองเจริญทุกอย่างมีระเบียบอะไรอะไรก็ดี อากาศดีแถมโชคดี ได้โฮสแฟมิลี่ที่ดี เลยมีโอกาส ได้ไปไหนมาไหนกับเขาด้วย กลับไปบ้านคงนึกถึง หนุ่มล่ำๆที่นี่555 ว่ากันเรื่องของที่เที่ยวส่วนมากจะเที่ยวแถวๆซิดนีย์มากกว่า เพราะมีวันหยุดเป็นเสาร์และอาทิตย์ หาที่เดินที่เป็นแหล่งunseen และหาซื้อครีมรกแกะราคาถูก และถูกมากก เห็นราคามาขายที่ไทยนี่แทบช๊อคนะคะ กระปุกที่นั่นใหญ่ๆราคาสามดอลออส ประมาณ 75บาทในเรทนั้น มาที่ไทยนี่เขียนเป้น 7-800บาทเลยทีเดียว ตกใจมากถึงมากที่สุดดดด
ครีมที่นั่นถูกคะ แต่น้ำหอมโดยส่วนตัวคิดว่าไม่ถูก ส่วรเรื่องนาฬิกาก็ต้องซื้อให้ถูกช่วงลดราคาถึงจะได้ถูก แล้วยิ่งถ้าเอ่ยถึงรองเท้ากีฬาที่เป็นแบรนด์ต่างๆ ซื้อที่ไทยดีกว่าเจ้าคะ มันไม่ได้ลดราคาถูกกว่าบ้านเราเลย แถมอย่าถามเพื่อนให้หิ้วนะคะ ลำบากเค้าาาาา ลำพังแค่กระเป๋าสัมภาระเค้ากลับประเทศก็หนักแล้ว ถ้าจะให้ดีฝากของเล็กๆน้อยพวกน้ำหนักและขนาดไม่ใหญ่ดีกว่านะค่ะ เกรงใจเพื่อนหน่อยเนาะะะ555 -_-"
บล๊อคนี้ขอเลือกโฟลเดอรช่วงเดือนเดียวกันละกันเนาะ แต่เป็นของปีที่แล้วเจ้าคะ เพราะช่วงนั้นทำงานไม่ว่างมาเขียนโชว์ความงามของที่นั่น ว่างปุ๊ปก็หลับอย่างเดียวเลย
เดือนMay-June ช่วงนั้นกำลังเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิคะ อากาศกำลังจะแห้งๆ ลมพัดมาเรื่อยๆเริ่มหนาวให้ขนแขนขนขาตั้งชันสง่า ว่างๆไปก็เดทไปเรื่อยยยย หาคนพาเที่ยว เก๋ไก๋ ล่ำบึกกก คิคิ
ทุกๆช่วงวันหยุดวีคเอนท์จะต้องแพลนอาทิตย์ต่ออาทิตย์ เพราะยังไงมาปีเดียวต้องเที่ยวดูที่นั่นให้คุ้มเจ้าคะ ฮ่าๆ
ไปที่สวนสัตว์ Taronga Zoo ต้องนั้งเรือข้ามฟากไปจากฝั่งในเมืองอีกด้านหนึ่ง เสร็จแล้วก็มาเดิน Darling Harbor bridge ในตัวเมือง ซึ่งเป็นสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างอีกแหลมนึงของส่วนตัวเมืองไปห้างสรรพสินค้า เพื่อให้คนสัญจรไปมาสะดวก สะพานนี้ช่วงที่ไปนี่พอดีเค้าหมุนสะพานตรงกลางเพื่อให้เรือที่จอดเทียบท่า เป็นเรือส่วนตัวตามภาพนะจ๊ะ



เดินๆสวยๆไปตามสะพาน เค้าก็ทำสะอาดสะอ้านมันทุกรูขุมขนจริงๆ จะว่าไปตามสถานีรถไฟที่เริ่มห่างจากตัวเมือง ก็จะมีขยธพลาสติกแบบน้านเราแหละคะ แต่ก็น้อยกว่ามากกกกก คือทุกประเทศอะนะ มันก็ต้องมีคนที่ไร้ระเบียบวินัยปะปนกันไป แต่ประเทศที่พัฒนาก็จะมีคนที่มีระเบียบวินัยมากกว่าเท่านั้นเอง อุ๊ปส์!!


 หอบังคับการตรงกลางสะพาน หมุนได้จริงๆนะ แต่หารูปไม่เจอหงะ วี๊ดดด

ช่วงต่อไปจำได้ว่าจะเป็นเทศกาลกาแฟนะคะ จัดที่ The rocks เดี๋ยวว่างๆจะมาอัพรูปลงอีกนะเจ้าคะ วันนี้อาจต้องไปหาข้าวกินก่อน

ปล.รูปภาพทั้งหมดเป็นของปี2014นะคะ พอดีกลับมาไทยแล้วเพิ่งว่างและสมองเพิ่งได้พัก ฮ่าๆ เลยมาลงเจ้าค่า รูปเยอะมากแต่เนทช้า เลยเลือกมาแต่อันที่ดูได้นะคะ คิคิ

Wednesday, July 2, 2014

Terrigal beach,Australia 2014

its been a long time that i didnt update any story out here
just been a bit busy cause of my working as a nanny haha (sounded like ive got my own babies tho lol but nah i am single :p)

well...just could not type in Thai like as before because now just got the new laptop..
not supposing to get it but i just need to use it so ...

i just would like to say "please accept my apology for any error spelling or wrong sentence/grammar" as I am just learn how to speak and write in English but actually I would prefer to type in Thai but no choices for now ...:(...Just want to share what i am feeling now so bad...can not wait to get my Thai keyboard back in my hands again haha...

the things i have learn here since i have been here like 4 months ..mmm..i could see how differently families are and what their thoughts are ...how could each family raising their kids ..some just by TV cause of their parents keep busy at work..some their kids got the mental problem themselves...anyway i am taking care of 3 families out here ..actually doing all of the things what they asked me to do but mainly will be with kids so...

Last week, just been at Terrigal beach with them at their beach house..was a bit cold for me (cause i am from a tropical place lol) and just took many photos and would like to share to people .(.just in case you guys feel like interesting in the same way lol)

 it should be in the middle of the long beach side as i got the direction from google GPS.
what i am using now is Amaysim telephone network, i feel like it did not work well out there sometimes cause a bit far from the city (underground floor) but on the beach was good signal. well its a cheap monthly paid so just feel like its ok to use this network.  better than nothing and i paid just $40 motnhly(its not advertisement at all just saying)

 viewing around of thus beach as 180 degree

 a little boy and the beach

 Hellowwww toddlers! :)
 up of the beach
 was around 3 pm...shrinking your eye lids if you want to :)

 forever alone -_-"
 foot print does not mean just evidence but story
 nice surffff


 as i could see those little shells on the rocks ..they might prefer fresh sea water from sea surf.

now i am feeling like my migraine happens to me again sorry that i could not keep telling my story more longer than this just need to take medicine and take a rest as soon as possible ...

it is 10 pm now ding ding dang dang have a good night the world..

see you my next story soon!!
Muah muah XD

  


Monday, March 31, 2014

Work and holiday Sydney !

หวัดดีๆ มาได้เดือนนึงแล้ว รู้สึกน้ำหนักตัวขึ้น555 โฮสเลี้ยงดีเกิน  หงิ 
ด้วยความที่ไม่ได้เอาคอมมาด้วย จึงมีแต่รูปไก่ๆกาๆในโทรศัพท์นะเคอะ งื้ออออ สวยบ้างไม่สวยบ้างละเนาะ
แต่สิ่งที่เห็นแล้วตื่นตาตื่นใจมากๆเลยตั้งแต่ก้าวแรกที่มาที่นี่ คือ...ปุ๊จายล่ำมาก หุ่นเฟริมกันมากๆ เรานึกว่าเราพลัดหลงมาในเมืองแฟชั่นมิลานหรือนี่กระไร นึกไปด้วยซ้ำว่าฝันไปรึป่าว 555 

มาถึงก็ไปพักโฮสเทล2คืน เดินดูตึกรามบ้านช่องเค้าไป สวยฃามดีขนาด ถ้ามีกล้องสวยๆเดะจะได้เอามาลงนะคะ ตอนนี้เก็บตังค์ก่อนคิคิ 

ก็นั่นแหละมาถึงไม่เกิน2อาทิตย์ ตามตำราที่ค้นหามาในเนทเค้าก็บอกว่าให้รีบบึ่งไปเปิดบัญชีเลย เค้าจะได้ไม่ต้องมาขอเอกสารอะไรเราเยอะแยะ

และก็จริงด้วยแฮะ คิคิ 
รูปตามตำนาน ลงไปให้นึกได้ว่า อ่อเรามาถึงแล้วจริงๆ555 เดินไปดูคนเดียว เพลินตา มองเค้าจู๋จี๋กัน ดีเนาะ ทำไรไม่ได้ ได้แต่อิจฉาคะ 

พอสักพักได้เข้าบ้านโฮสเราก้ออกมาเดินเล่นในเมือง คือไม่ได้อ่านอะไรอะคะ ดูในกูเกิลแมปเอาว่ามันมีอะไรในแผนที่เป็น แลนด์มาร์ก เราก้เดินตามนั้น มาเจอที่นี่โดยบังเอิญ หลังจากเดินหลงอยู่ในสวนอะไรสักอย่างในเมือง 


วันนั้นแย่หน่อยเจ้าคะ ฝนตกบ้างไม่ตกบ้าง ฟ้าครื้มทั้งวัน ส่วนเจ้าโทรศัพท์เรามันก็ช่างเลนส์เน่าเหลือเกิน ได้รูปมาแบบงั้นๆไป555 ที่ตรงนี้เป็นโบสถ์คะ ข้างในสวยมากกกกกก แต่เค้าไม่ให้ถ่ายหงะ ตาเราก็ดูดเอาความสวยงามให้นานเท่าที่ ฝนจะหายหยุดตกอะคะ ศิลปะแก้วโมซาจ หรืออะไรที่เค้าเรียกๆกันนะแหละคะ เราก็ดู อึ้งกันไป มีทั้งรูปปั้นพระเยซูถูกทรมานก่อนสิ้นพระชนม์ เยอะแยะไปหมด เหนื่อยหน่อยก็นั่งเนียนกับเค้าในที่นั่ง ก่อนจะออกมา แล้วเดินไปที่ Harbour อีกรอบ คราวนี้ก็ไปแอบดูเค้าเล่นกีฬาโยนบอลโยนอะไรกัน ทอดเสื้อกันกระหน่ำที่สวนสาธารณะเลยเจ้าคะ อิชั้นก็ทนไม่ไหว แอบถ่ายมาคิคิ เค้าล่ำกันจริงๆนะเจ้าคะ....เอารูปออกเพราะเกรงว่าเค้าจะเห็นเราแอบถ่าย ...แง่มๆๆ


ทำเนียนต่อไปด้วยการกินขนมปัง ให้อาหารนก เนียนไปว่าตัวเองใจดี นกมาล้อมรอบ เหมือนเจ้าหญิง5555 


สิริรวมวันนั้นเดินก็ร่วมๆ3-4ชั่วโมงได้นะเจ้าคะ โชคดีที่เราใส่รองเท้าสบาย เกือบจะมีปัญหาไขข้อมั้ยเล่า 555 

ถนนสวยดีเลยถ่ายมาคะ 

ไปนั่งเนียนอยู่ท่าเรือ ดูวิถีชีวิตคนแถวนั้นเค้าชอบมานั่งตากแดดกันเนาะ มากินอาหารพักเที่ยง มาอ่านหนังสือ เอาโทรศัพท์มาเล่น แต่ก็มาคนเดียวกันมั้งนั้น นั่งมุมใครมุมมัน ไอ้เรานะหรอ ก็นั่งเก้าอี้โซนหลังสุด แอบดูเค้าไง555 แต่ถ้าเป็นพี่ไทยไม่ได้เชียว หลบแดดตลอด กลัวดำกัน 


ตึกในเมือง สวย ดี คะ 

ประตูเข้าสวนสวยๆในตัวเมือง ลืมชื่อคะ ด้านในสวน เขียวมาก สวย เนียน ยังกับสวนในเทเลทับบี้เลยคะ อิอิ

ป่าวน๊าาาไม่ได้คิดอะไรเลย เห็นมีรูปปั้นเลยถ่ายเฉยๆ เค้ายืนแอ๊คท่าให้เราไง

ข้างบนนี้ต้นอะไรไม่รู้อีกเช่นกัน แต่ใหญ่มากกก เทียบกับขนาดคนได้เลยว่าพุ่มไม้ใหญ่กี่เท่า คนเหลือตัวกะจิ๊ดเดียวคะ 


ก่อนมาลาด้วยภาพ Harbour bridge ตอนกลางคืน สวยงามเจ้าคะ

อีกฝั่งใกล้ๆก็ตึกต่างๆ ช่างดูศิวิไลซ์จริงๆเมืองนี้

อ่อยง่วงแล้วคะ ต่อไปเดี๋ยวจะลงภาพที่เห็นแล้วประทับใจอีกนะเจ้าคะฝันหวานๆ 
ม๊วฟๆ
:)